รากเทียม ปัจจุบันความก้าวหน้าทางทันตกรรม ทำให้เรามีทางเลือกให้กับการใส่ฟันทดแทนการสูญเสียฟันธรรมชาติให้กลับมามีรูปร่างและการใช้งานใกล้เคียงกับการมีฟันธรรมชาติมากที่สุด และ การรักษาด้วยรากฟันเทียม คือ คำตอบที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้ โดยการใส่ฟันด้วยรากเทียมมีข้อดี คือ
มีความรู้สึกเหมือนยังมีฟันธรรมชาติอยู่
ไม่ต้องกรอฟันซี่ข้างเคียงในการรักษา
ช่วยคงรักษาสภาพกระดูกขากรรไกร
ช่วยรักษาโครงสร้างใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
ช่วยเพิ่มคุณภาพในชีวิตประจำวัน สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ด้วยแรงบดเคี้ยวปกติ
ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพูด ยิ้ม และหัวเราะได้อย่างมั่นใจ
ช่วยรักษาสมดุลของระบบบดเคี้ยว ช่วยคงสภาพฟันในช่องปาก และป้องกันการเกิดฟันล้ม
รากฟันเทียม ทำด้วยวัสดุทางทันตกรรมที่ทำมาจากโลหะ ไทเทเนียมบริสุทธิ์ รากเทียมมีรูปร่างคล้ายรากฟันธรรมชาติ โดยฝังเข้าไปในกระดูกขากรรไกร แล้วรอให้ร่างกายสร้างกระดูกมายึดกับรากฟันเทียม ประมาณ 3-4 เดือนเป็นอย่างน้อย ขึ้นกับคุณภาพของกระดูกในส่วนที่รองรับรากเทียม
แกนฟัน ที่รองรับครอบฟัน เป็นตัวเชื่อมครอบฟันให้ยึดติดแน่นกับรากเทียม และทำหน้าที่ถ่ายทอดแรงบดเคี้ยวจากครอบฟัน สู่รากเทียมและส่งต่อไปยังกระดูกขากรรไกร
ครอบฟัน เป็นส่วนบนสุดที่เหมือนตัวฟันและสามารถมองเห็นได้ในปาก
ตรวจเบื้องต้นโดยทันตแพทย์และ ทันตแพทย์จะส่งเอ็กซเรย์เพื่อประเมินความหนาของกระดูกขากรรไกร เพื่อนำมาวางแผนการรักษา
ทันตแพทย์จะทำการฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูก และอาจมีการปลูกกระดูกในกรณีที่ผู้ป่วยมีกระดูกที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอกับขนาดของรากเทียมที่ทันตแพทย์ได้วางแผนเบื้องต้น และ รอให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรได้ดี ประมาณ 3 เดือนเป็นอย่างน้อยขึ้นกับคุณภาพของกระดูกขากรรไกร
หลังจากนั้นทันตแพทย์จะทำการต่อแกนฟันเพื่อรองรับครอบฟัน และจะทำการพิมพ์ปากเพื่อส่งทำครอบฟัน
ใส่ครอบฟันลงบนรากฟันเทียม
หลังการใส่ฟันทดแทนด้วยการใส่รากฟันเทียม สามารถดูแลและรักษาสุขภาพของปากและฟันได้เหมือนการดูแลปกติทั่วไป นอกจากการดูแลที่บ้านแล้ว ควรเข้ารับการตรวจสภาพฟัน กับทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือนด้วยนะคะ